ภาควิชาภาษาญี่ปุ่น
ภาควิชาการอบรมเพื่อเป็นอาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่น
เกี่ยวกับภาควิชาการอบรมเพื่อเป็นอาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่นของสถาบันภาษาญี่ปุ่นนานาชาติซัปโปโร
- สถานภาพการหางานทำของนักเรียนที่จบไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง
- สถาบันฯ แนะนำงานให้ได้หรือไม่
- เงินช่วยเหลือเพื่อการศึกษาและการฝึกอบรมใช้กับหลักสูตรใดได้บ้าง
- เงินช่วยเหลือเพื่อการศึกษาและการฝึกอบรมใช้กับหลักสูตรใดได้บ้าง
- จำเป็นหรือไม่ที่ต้องผ่านทั้งการอบรม 420 ชั่วโมง และผ่านการทดสอบวัดระดับความสามารถในการสอนภาษาญี่ปุ่นด้วย
- จะเข้าร่วมหลักสูตรในขณะที่ทำงานไปด้วย / เรียนมหาวิทยาลัยไปด้วย ได้หรือไม่
- ไม่มีความรู้ในเรื่องการสอนภาษาญี่ปุ่นเลย จะเรียนตามทันไหม
- ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินทำให้เข้าเรียนไม่ได้ จะสามารถโอนสิทธิได้หรือไม่
- ความแตกต่างจากโรงเรียนอื่นคืออะไร
ภาควิชาภาษาญี่ปุ่น
ภาควิชาภาษาญี่ปุ่น
Q.
เข้าเรียนได้ตั้งแต่เมื่อใด
A.
คอร์สระยะยาวเข้าเรียนได้ในเดือน เม.ย. , ก.ค., ต.ค. หรือ ม.ค.
แต่ก็มีบางเดือนที่อาจไม่สามารถเข้าเรียนได้ถ้ามีปัญหาเรื่องระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่นหรือการเข้าทำงานหลังจบหลักสูตร
กรุณาสอบถามรายละเอียดได้จากทางสถาบันฯ
สำหรับหลักสูตรระยะสั้นหรือหลักสูตรสำหรับผู้ที่มีวีซ่าอยู่แล้วหรือหลักสูตรเรียนตัวต่อตัว โดยทั่วไปแล้วจะเข้าเรียนเมื่อใดก็ได้
แต่ในกรณีของการเรียนเป็นกลุ่ม จะต้องตรวจสอบล่วงหน้าก่อนว่าในช่วงที่จะเข้าเรียนนั้นมีชั้นเรียนที่เปิดตรงกับระดับความรู้ของนักเรียนหรือไม่
หลักสูตรภาคเรียนฤดูร้อนจัดขึ้นราวกลางเดือนกรกฎาคมของทุกปี
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
จะสมัครเรียนได้อย่างไร
A.
สำหรับหลักสูตรระยะยาว กรุณาส่งอีเมลหรือแฟกซ์เอกสารมายังสถาบันฯ
เจ้าหน้าที่ของสถาบันจะตรวจสอบเอกสารแล้วติดต่อกลับไปยังท่าน
หลังจากเจ้าหน้าที่ยืนยันความถูกต้องครบถ้วนของเอกสารแล้ว กรุณาส่งเอกสารมาทางไปรษณีย์
หลังจากนั้น กรุณาจ่ายค่าสมัครโดยโอนเงินผ่านทางธนาคาร
กรุณาสมัครเรียนล่วงหน้า 3-4 เดือนก่อนเปิดภาคเรียน
สำหรับหลักสูตรอื่นๆ กรุณาส่งเอกสารทางอีเมลหรือแฟกซ์
กรุณาสมัครล่วงหน้า 1 เดือนก่อนเปิดเรียน
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
จะขอวีซ่าได้อย่างไร
A.
สำหรับหลักสูตรระยะยาวนั้น สามารถขอวีซ่านักเรียนได้
โดยส่งใบสมัครเรียนล่วงหน้าก่อนเปิดภาคเรียน 3-4 เดือน หลังจากนั้น ทางโรงเรียนจะทำเรื่องขอเพื่อให้ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองซัปโปโรออกหนังสือรับรองสถานภาพการพำนักในประเทศให้กับนักเรียน
หลังจากได้หนังสือรับรองนี้แล้ว ให้นักเรียนนำไปยื่นต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลญี่ปุ่นในประเทศของตนเพื่อขอวีซ่า
สำหรับการขอวีซ่าเพื่อเข้าเรียนหลักสูตรอื่นๆ นั้น แตกต่างกันออกไปตามประเทศของนักเรียน กรุณาสอบถามที่สถานทูตหรือสถานกงสุลญี่ปุ่นในประเทศของท่าน
ท่านสามารถตรวจสอบรายชื่อประเทศที่ไม่จำเป็นต้องใช้วีซ่าในการเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ที่นี่ (โฮมเพจของกระทรวงการต่างประเทศ)
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
จำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกันในประเทศญี่ปุ่นหรือไม่
A.
ไม่จำเป็น
สำหรับหลักสูตรระยะยาว สถาบันฯ สามารถเป็นผู้ค้ำประกันให้นักเรียนได้
สำหรับหลักสูตรระยะสั้น ไม่จำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกัน
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
เกี่ยวกับค่าใช้จ่าย
Q.
ค่าเล่าเรียนเท่าไร
A.
สำหรับหลักสูตรระยะยาว ประมาณปีละ 700,000 เยน
หลักสูตรระยะสั้น 3 เดือน (12 สัปดาห์) ประมาณ 200,000 เยน
หลักสูตรสำหรับผู้ที่มีวีซ่าอยู่แล้ว 3 เดือน (12 สัปดาห์) ประมาณ 150,000 เยน
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
เกี่ยวกับการใช้ชีวิต
Q.
มีหอพักหรือไม่
A.
ทางสถาบันมีบริการจัดหาหอพักหรืออพาร์ตเม้นท์ โฮมสเตย์
สำหรับหอพักนั้น มีทั้งแบบที่มีอาหารและไม่มีอาหารให้ หรือแบบที่มีและไม่มีอ่างอาบน้ำหรือห้องน้ำในตัว แตกต่างกันไป ซึ่งมีทั้งหมด 5 แห่งที่สถาบันฯ แนะนำให้
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
ค่าหอพักเท่าไร
A.
ค่าหอพักเดือนละประมาณ 30,000 เยน~70,000 เยน
ราคาแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่ารวมค่าอาหารด้วยหรือไม่
ค่าเช่าอพาร์ตเม้นท์ประมาณ 25,000 เยน~35,000 เยน
ค่าใช้จ่ายสำหรับโฮมสเตย์ที่รวมค่าอาหาร 2 มื้อ (เช้า・เย็น) วันละประมาณ 2,000 เยน หรือเดือนละ 60,000 เยน
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
ค่าครองชีพประมาณเท่าไร
A.
รวมค่าเช่าบ้านและค่าอาหารแล้วประมาณเดือนละ 7 หมื่นเยน ~1 แสนเยน
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
ทำงานพิเศษได้หรือไม่
A.
สำหรับหลักสูตรระยะยาว ถ้าได้รับอนุญาตจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้ทำกิจกรรมนอกเหนือจากสถานะวีซ่าที่ได้รับแล้ว จะได้รับอนุญาตให้ทำงานพิเศษได้สัปดาห์ละ 28 ชั่วโมง
ส่วนหลักสูตรอื่นๆ นั้น นักเรียนจะทำงานพิเศษได้ตามที่ระบุไว้ในหนังสือรับรองสถานภาพการพำนักอยู่ในประเทศ
แต่สำหรับสถาบันภาษาญี่ปุ่นนานาชาติซัปโปโรนั้น เราเห็นความสำคัญของการปรับตัวให้เข้ากับชีวิตความเป็นอยู่ในซัปโปโรให้ได้อย่างรวดเร็วเพื่อที่จะมีสมาธิในการเรียน เราจึงอนุญาตให้นักเรียนทำงานพิเศษได้หลังจากผ่านเดือนแรกของการเรียนไปแล้ว
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
เกี่ยวกับการเรียน・ห้องเรียน
Q.
มีนักเรียนจากประเทศเดียวกับตนเองไหม
A.
มีนักเรียนจาก 25 ประเทศและดินแดนทั่วโลกมาศึกษาที่นี่
ลองหาดูว่ามีนักเรียนจากประเทศเดียวกันกับท่านหรือไม่
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
ในห้องเรียนหนึ่งมีนักเรียนประมาณกี่คน
A.
ประมาณ 10 - 20 คน แตกต่างกันไปตามระดับชั้นเรียน
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
ใช้วิธีใดในการแบ่งห้องเรียน
A.
ใช้ผลของการวัดระดับความรู้ในตอนสมัครเรียน และผลการทดสอบการจัดเข้าชั้นเรียน (Placement test)
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
ในแต่ละวันเรียนประมาณกี่ชั่วโมง
A.
ในคาบเรียนหนึ่งๆ ใช้เวลา 45 นาที แต่ละวันเรียน 4 คาบเรียน
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
ต้องเรียนนานเท่าใดจึงจะสอบผ่านการวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่น (JLPT) N1 ได้
A.
แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าได้เรียนภาษาญี่ปุ่นมาก่อนมากน้อยแค่ไหน และระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่นของนักเรียน แม้ผู้ที่ไม่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นมาก่อนเลย ถ้าได้เรียนเป็นเวลา 2 ปีแล้ว ก็สามารถสอบผ่านการวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่น (JLPT) N1 ได้
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
อาจารย์สอนโดยใช้ภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่นบ้างไหม
A.
อาจารย์สอนโดยใช้ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น
เนื่องจากเราใช้ภาพวาดและรูปถ่ายเป็นสื่อการสอนมาก จึงทำให้คนที่แม้จะเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ก็สามารถเข้าใจได้
การจดจำภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาญี่ปุ่นโดยตรงนั้น ไม่เพียงแต่ทำให้ซึมซับแนวคิดของภาษาญี่ปุ่นไปทีละเล็กทีละน้อยเท่านั้น แต่การสนทนากับอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้นโดยใช้ภาษาญี่ปุ่นเพียงอย่างเดียว ยังช่วยพัฒนาทักษะการสนทนาภาษาญี่ปุ่นได้อย่างรวดเร็วด้วย
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
เกี่ยวกับซัปโปโร
Q.
ซัปโปโรมีภาษาถิ่นไหม
A.
มีลักษณะเฉพาะอยู่บ้างในหลายจุด แต่ไม่มีภาษาถิ่นของตัวเองเป็นพิเศษ
ในการสนทนา สำเนียงการออกเสียงใกล้เคียงสำเนียงมาตรฐานมาก
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
สภาพอากาศในซัปโปโรเป็นอย่างไร
A.
ในฤดูร้อน อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 22oC ฤดูหนาวเฉลี่ยประมาณ -3oC
วันที่ร้อนจัด (อุณหภูมิสูงสุด 30oC ขึ้นไป) มีประมาณ 8 วัน วันที่หนาวจัด (อุณหภูมิสูงสุดต่ำกว่า 0oC) มีประมาณ 45 วันโดยเฉลี่ยต่อปี
ปริมาณหิมะเฉลี่ย 450 เซ็นติเมตรต่อปี
ฤดูร้อนไม่ร้อนเกินไป แล้วยังไม่มีฤดูที่ฝนตกชุก ทำให้เป็นเมืองที่อยู่สบายมาก
มีหิมะตกในฤดูหนาว
ปริมาณหิมะนับว่าไม่มากเมื่อเทียบกับทั่วประเทศ
อีกทั้งถนนหนทางในเมืองได้รับการพัฒนาเป็นอย่างดีให้รับมือกับหิมะ ไม่ทำให้การใช้ชีวิตลำบากแต่อย่างใด ซากุระ, ต้นไม้เขียวสด, ใบไม้สีแดง, ทุ่งกว้างที่เต็มไปด้วยหิมะ แต่ละฤดูมีความแตกต่างกันอย่างมาก ท่านสามารถชื่นชมความงามของธรรมชาติทั้ง 4 ฤดูได้อย่างเต็มที่
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
สภาพแวดล้อมของโรงเรียนเป็นอย่างไร
A.
โรงเรียนตั้งอยู่ในแถบที่เรียกว่า 「มารุยามะ」 มีชื่อเสียงว่าเป็นเมืองที่งดงาม มีร้านกาแฟร้านอาหารอยู่มากมาย
ใกล้ๆ โรงเรียนมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ชื่อมารุยามะโคเอน เป็นเมืองที่เงียบสงบ
สามารถเดินจากสถานีรถไฟใต้ดินมาที่โรงเรียนโดยใช้เวลาเพียง 7 นาทีเท่านั้น
ถ้านั่งรถไฟใต้ดินจากที่นี่ไปยังโอโดริซึ่งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโรใช้เวลาเพียง 5 นาที
และเดินจากโรงเรียนไปเพียง 10 นาทีก็ถึงสถานีขนส่ง
ขึ้นรถประจำทางไปยังสนามบินชินชิโตเซ่ใช้เวลา 75 นาที
มีซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านสะดวกซื้อ, ที่ทำการไปรษณีย์, ธนาคาร, โรงพยาบาล อยู่ในระยะทางที่สามารถเดินไปได้
มีมารุยามะคลาสซึ่งเป็นช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ ภายในมีซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ร้านหนังสือ และสปอร์ตคลับต่างๆ อยู่
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
ภาควิชาการอบรมเพื่อเป็นอาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่น
เกี่ยวกับอาชีพการเป็นอาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่น
Q.
จะเป็นอาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่นได้อย่างไร
A.
การเป็นอาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่นไม่ได้เกี่ยวกับเชื้อชาติ
คุณสมบัติทั่วไปที่สถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นใช้ในการรับสมัครมีดังนี้
*จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยโดยมีภาษาญี่ปุ่นเป็นวิชาเอกหรือวิชาโท
*ผ่านการทดสอบวัดระดับความสามารถในการสอนภาษาญี่ปุ่น
*จบการศึกษาระดับปริญญาตรีและผ่านการอบรมหลักสูตรการเป็นอาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่น 420 ชั่วโมงมาแล้ว
ในความเป็นจริงการจ้างงานของแต่ละสถาบัน อาจระบุเงื่อนไขคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป อาจใช้คุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อที่กล่าวมาได้
สถาบันของเรามีการจัดอบรมหลักสูตรการเป็นอาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่น 420 ชั่วโมง และมีการจัดอบรมเพื่อเตรียมสอบวัดระดับความสามารถในการสอนภาษาญี่ปุ่น
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
ถ้าไม่รู้ภาษาต่างประเทศจะเป็นอาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่นได้ไหม
A.
ทางภาควิชาการอบรมเพื่อเป็นอาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่นของเรานั้น สอนวิธีการสอนภาษาญี่ปุ่นโดยใช้ภาษาญี่ปุ่น
โดยตรง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศญี่ปุ่นเองจะใช้วิธีนี้สอนเป็นหลัก
และที่จริงแล้ว เราก็ใช้วิธีนี้ในสถาบันฯ ของเราเองด้วย
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
เกี่ยวกับภาควิชาการอบรมเพื่อเป็นอาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่นของสถาบันภาษาญี่ปุ่นนานาชาติซัปโปโร
Q.
สถานภาพการหางานทำของนักเรียนที่จบไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง
A.
ในโซนเอเชียมีการสรรหาว่าจ้างสูง ดังนั้นถ้าไม่เลือกประเทศก็มีโอกาสสูงที่จะได้งาน
จนถึงขณะนี้ มีผู้จบหลักสูตรและส่งไปทำงานในกว่า 40 ประเทศแล้ว
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ (ปี 2007~2012) นักเรียนที่จบมาได้ไปทำงานในประเทศดังต่อไปนี้
จีน, ฮ่องกง, เกาหลีใต้, ไทย, เวียดนาม, กัมพูชา, เนปาล, รัสเซีย, โปแลนด์, ฝรั่งเศส,วานูอาตู, ชิลี, เปรู, บราซิล ญี่ปุ่น เป็นต้น
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
สถาบันฯ แนะนำงานให้ได้หรือไม่
A.
สถาบันฯ มีการรับสมัครอาจารย์จากผู้ที่ผ่านการอบรมเพื่อเป็นอาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่นจากโรงเรียนอยู่
นอกจากนี้ เมื่อได้รับข่าวสารการรับสมัครงานจากสถาบันสอนภาษาญี่ปุ่นในต่างประเทศ เราก็ได้มีการปิดประกาศประชาสัมพันธ์ไว้ที่บอร์ดประชาสัมพันธ์
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
เงินช่วยเหลือเพื่อการศึกษาและการฝึกอบรมใช้กับหลักสูตรใดได้บ้าง และจะสมัครขอรับเงินช่วยเหลือได้อย่างไร
A.
หลักสูตรที่สอดคล้องกับเงื่อนไขคือหลักสูตรเฉพาะทาง
ก่อนอื่นต้องไปตรวจสอบกับทาง Hello Work ก่อนว่าเงื่อนไขของตัวเราสอดคล้องกับหลักเกณฑ์หรือไม่ ถ้าเงื่อนไขสอดคล้องกันก็ให้ดำเนินการสมัครเรียนตามขั้นตอนปกติ เมื่อเรียนจบแล้วจะได้ประกาศนียบัตร ซึ่งประกาศนียบัตรนี้สามารถนำไปดำเนินการเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือได้
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
จำเป็นหรือไม่ที่ต้องผ่านทั้งการอบรม 420 ชั่วโมง และผ่านการทดสอบวัดระดับความสามารถในการสอนภาษาญี่ปุ่นด้วย
A.
หลักสูตรที่สอดคล้องกับเงื่อนไขคือหลักสูตรเฉพาะทาง
ก่อนอื่นต้องไปตรวจสอบกับทาง Hello Work ก่อนว่าเงื่อนไขของตัวเราสอดคล้องกับหลักเกณฑ์หรือไม่ ถ้าเงื่อนไขสอดคล้องกันก็ให้ดำเนินการสมัครเรียนตามขั้นตอนปกติ เมื่อเรียนจบแล้วจะได้ประกาศนียบัตร ซึ่งประกาศนียบัตรนี้สามารถนำไปดำเนินการเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือได้
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
จำเป็นหรือไม่ที่ต้องผ่านทั้งการอบรม 420 ชั่วโมง และผ่านการทดสอบวัดระดับความสามารถในการสอนภาษาญี่ปุ่นด้วย
A.
รณีที่จบการศึกษาระดับมัธยมปลาย ถ้าจะหางานในประเทศหรือนอกประเทศญี่ปุ่น การผ่านการทดสอบวัดระดับเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นเกือบทุกแห่ง
สำหรับผู้ที่จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย การผ่านการอบรม 420 ชั่วโมงเพียงอย่างเดียวก็สามารถหางานทำได้ ถ้าเรียนหลักสูตรเตรียมสอบวัดระดับก็จะช่วยเพิ่มความรู้ในการสอนภาษาญี่ปุ่น และถ้าผ่านการอบรม 420 ชั่วโมง ก็จะช่วยเพิ่มความสามารถในการสอนจริงให้ดียิ่งขึ้น
ซึ่งทั้งสองอย่างต่างก็เป็นประโยชน์ต่อการทำงานสอนจริงทั้งสิ้น
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
จะเข้าร่วมหลักสูตรในขณะที่ทำงานไปด้วย / เรียนมหาวิทยาลัยไปด้วย ได้หรือไม่
A.
ทำได้โดยการเลือกหลักสูตรที่มีการเรียนการสอนในวันที่ว่างและสามารถเข้าเรียนได้
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
ไม่มีความรู้ในเรื่องการสอนภาษาญี่ปุ่นเลย จะเรียนตามทันไหม
A.
แม้ท่านจะเพิ่งเริ่มเรียนด้านการสอนภาษาญี่ปุ่น แต่เพื่อให้ท่านสามารถปฏิบัติงานได้จริงหลังผ่านการฝึกอบรม 420 ชั่วโมงได้ เราจึงไม่ได้เพียงแต่ให้ความรู้เท่านั้น แต่เรายังจัดชั้นเรียนตัวอย่างให้ได้ฝึกฝนประสบการณ์การทำงานอีกด้วย ท่านจึงสามารถเรียนได้อย่างวางใจ。
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินทำให้เข้าเรียนไม่ได้ จะสามารถโอนสิทธิได้หรือไม่
A.
แม้ว่าการโอนสิทธิจะไม่สามารถทำได้ แต่ถ้าสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้ เรามีบริการให้ยืมวีดีโอของบทเรียนไปศึกษาเองได้
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง
Q.
ความแตกต่างจากโรงเรียนอื่นคืออะไร
A.
สถาบันฯ มีการฝึกหัดปฏิบัติจริงมาก เนื้อหาก็สามารถนำไปใช้ได้จริง
อีกทั้งเรายังมีภาควิชาภาษาญี่ปุ่นเปิดสอนอยู่ และมีการจัดงานประจำปีตามเทศกาลต่างๆ ร่วมกันระหว่างภาควิชาการอบรมเพื่อเป็นอาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่นกับภาควิชาภาษาญี่ปุ่น ทำให้นักเรียนได้มีปฏิสัมพันธ์พูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้ที่กำลังเรียนภาษาญี่ปุ่นอยู่จริง ทำให้นักเรียนเกิดความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับการที่ตัวเองได้เป็นอาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่นในสถานการณ์จริง
ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง